รู้จักไม้ 4 ประเภทที่ใช้ทำ “เก้าอี้ร้านอาหาร คาเฟ่”

       ถ้าคุณกำลังมองหาเก้าอี้ไม้สวย ๆ สำหรับร้านอาหารหรือคาเฟ่ อย่าคิดแค่ว่าไม้ก็คือไม้! เพราะไม้แต่ละประเภทมีคุณสมบัติ รูปลักษณ์ และความทนทานที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความสวยงาม การใช้งาน และงบประมาณของร้านคุณ

       วันนี้เราจะพาไปรู้จัก ไม้ 4 ประเภทยอดนิยม ที่ใช้ทำเก้าอี้ร้านอาหาร คาเฟ่ พร้อมคำแนะนำว่าแบบไหนเหมาะกับร้านคุณที่สุด!

1. ไม้แท้ (Solid Wood)

       ไม้แท้ (Solid Wood) คือ ไม้ที่มาจากเนื้อไม้จริง ๆ ทั้งชิ้น ไม่ใช่ไม้ที่นำมาอัดต่อ หรือปิดผิวด้วยวัสดุอื่น ไม้แท้มีความแข็งแรงทนทานสูง และลายไม้เป็นธรรมชาติที่ไม่ซ้ำกัน ทำให้เก้าอี้ไม้แท้มีความพรีเมียมและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ตัวอย่างไม้แท้ยอดนิยมสำหรับเก้าอี้ร้านอาหารและคาเฟ่

• ไม้สัก (Teak): แข็งแรง ทนแดดทนฝน เหมาะทั้ง indoor และ outdoor
• ไม้โอ๊ค (Oak): แข็งแรง ลายไม้สวยหรู เหมาะกับร้านที่เน้นความพรีเมียม
• ไม้บีช (Beech): เนื้อไม้เหนียว สีอ่อน เหมาะกับร้านสไตล์มินิมอล
• ไม้เมเปิ้ล (Maple): ลายละเอียด น้ำหนักเบา เหมาะกับเก้าอี้ดีไซน์ทันสมัย
• ไม้แอช (Ash): ลายไม้เด่นชัด โทนสีอบอุ่น น้ำหนักไม่มาก เหมาะกับร้านที่ต้องการความเรียบหรูแต่ดูเข้าถึงง่าย

จุดเด่นของไม้แท้

• แข็งแรง ใช้งานได้ยาวนาน
• สามารถขัดซ่อมแซมและทาสีใหม่ได้
• สัมผัสอบอุ่นเป็นธรรมชาติ เพิ่มความน่าดึงดูดให้ร้านของคุณ

ข้อควรระวัง

• ราคาสูงกว่าวัสดุไม้สังเคราะห์
• ต้องดูแลรักษาเรื่องปลวกและความชื้น
• น้ำหนักมาก เคลื่อนย้ายลำบาก

เหมาะกับร้านแบบไหน?

เหมาะกับร้านที่ต้องการภาพลักษณ์พรีเมียม อบอุ่น และใส่ใจในคุณภาพระยะยาว เช่น ร้านอาหารหรู คาเฟ่สไตล์มินิมอล หรือร้านที่ต้องการเฟอร์นิเจอร์ไม้แท้จริง ๆ

📍หมายเหตุ: ไม้ยางพาราก็ถือเป็นไม้แท้ชนิดหนึ่งเช่นกัน แต่เนื่องจากมีจุดเด่นด้านราคาและลักษณะเฉพาะ เราจึงแยกไปอธิบายในข้อถัดไป เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจง่ายขึ้น

2. ไม้ยางพารา (Rubberwood)

       ไม้ยางพารา (Rubberwood) คือ ไม้ที่ได้จากต้นยางพาราที่หมดอายุกรีดน้ำยางแล้ว นำมาแปรรูปใช้ทำเฟอร์นิเจอร์

จุดเด่น

• ราคาคุ้มค่า หาซื้อได้ง่าย
• แข็งแรงพอสมควร เหมาะกับการใช้งานในร้านอาหารทั่วไป
• มีลวดลายไม้เรียบง่าย ดูสบายตา
• เหมาะกับร้านที่เน้นความคุ้มค่าและต้องการเก้าอี้ไม้จริง

ข้อควรระวัง

• ต้องเลือกไม้ที่อบแห้งดีแล้ว เพื่อป้องกันการบิดงอหรือแตกหัก
• ไม่เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงหรือ outdoor

เหมาะกับร้านแบบไหน?

ร้านอาหารและคาเฟ่ทั่วไปที่เน้นความคุ้มค่า ต้องการเก้าอี้ไม้แท้ แต่ไม่ต้องการลงทุนสูงเกินไป

3. ไม้ดัด (Bentwood)

       ไม้ดัด (Bentwood) คือ ไม้แท้ ที่ผ่านกระบวนการดัดโค้งด้วยความร้อนและความชื้น จนสามารถขึ้นรูปให้โค้งงอได้ตามต้องการ โดยไม่ต้องตัดหรือประกอบหลายชิ้นเหมือนไม้ทั่วไป

วิธีการทำไม้ดัด:

1. เลือกไม้เนื้ออ่อนที่ดัดง่าย เช่น ไม้บีช (Beech) หรือ ไม้น้ำหนักเบาอื่น ๆ
2. อบไอน้ำหรือแช่น้ำร้อน เพื่อให้ไม้มีความยืดหยุ่น
3. นำไปเข้า แบบพิมพ์หรือโครงดัด เพื่อให้ได้รูปทรงโค้งที่ต้องการ
4. ปล่อยให้แห้งในแบบ → ไม้จะคงรูปโค้งถาวรโดยไม่หักหรือเสียรูป

จุดเด่น

• น้ำหนักเบา ดีไซน์โค้งมนสวยงาม
• เหมาะกับสไตล์วินเทจ ยุโรป หรือญี่ปุ่นมินิมอล
• เคลื่อนย้ายง่าย ไม่หนักมือ

ข้อควรระวัง

• ไม่ทนต่อความชื้นและน้ำ ควรใช้งานในที่ร่มเท่านั้น
• รับน้ำหนักได้น้อยกว่าไม้ตัน

เหมาะกับร้านแบบไหน?

ร้านคาเฟ่เล็ก ๆ สไตล์วินเทจ ญี่ปุ่น หรือร้านที่ชอบงานดีไซน์ที่ดูละมุนอ่อนโยน

4. ไม้ MDF/HMR

       ไม้ MDF/HMR คือวัสดุไม้เทียมที่นิยมใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ โดยเฉพาะส่วนตกแต่งหรือชิ้นส่วนที่ไม่รับน้ำหนัก เช่น แผ่นพนักพิงหรือส่วนอื่น ๆ ในร้านอาหารและคาเฟ่ ที่ต้องการความสวยงาม ราคาประหยัด และดีไซน์หลากหลาย

🔹 MDF คืออะไร?
       MDF (Medium Density Fiberboard) คือแผ่นไม้ที่ผลิตจากเศษไม้บดละเอียด ผสมกาว แล้วอัดด้วยแรงดันสูงให้เป็นแผ่นเรียบแน่น

จุดเด่น
• ผิวเรียบ ละเอียด เหมาะกับการพ่นสีหรือปิดผิวลายไม้
• ราคาประหยัด
• ง่ายต่อการตัดและขึ้นรูป

ข้อควรระวัง
• ไม่ทนน้ำหรือความชื้น — เมื่อโดนน้ำอาจบวมหรือเสียรูปได้
• ต้องใช้ในพื้นที่แห้งและในร่มเท่านั้น

🔹 HMR คืออะไร?
       HMR (High Moisture Resistance MDF) คือ MDF รุ่นที่เพิ่มคุณสมบัติ ทนความชื้น ได้ดีกว่า MDF ทั่วไป โดยใช้กาวกันชื้นชนิดพิเศษ

จุดเด่น
• ทนความชื้นได้มากกว่าปกติ (แต่ยังไม่กันน้ำ 100%)
• เหมาะกับการใช้ในบริเวณที่มีความชื้น เช่น ครัว, พื้นที่ใกล้หน้าต่าง
• พื้นผิวและการใช้งานใกล้เคียง MDF

ข้อควรระวัง
• ราคาแพงกว่า MDF เล็กน้อย
• ยังไม่เหมาะกับการใช้งานกลางแจ้ง

จุดสังเกต	MDF (ธรรมดา)	HMR (ทนชื้น)
สีเนื้อไม้ (ขอบ)	น้ำตาลอ่อน / ครีม	เขียวอ่อน (บางยี่ห้อออกเขียวอมเทา)
พื้นผิว	เรียบ ละเอียด	เรียบ ละเอียด (แทบไม่ต่างจาก MDF)
ความแน่นของเนื้อไม้	แน่นระดับกลาง	แน่นกว่าเล็กน้อย
ดูจากรูป	แยกยาก ต้องสังเกต “ขอบเขียว”	ขอบมีสีเขียวอ่อน (หากยังไม่ปิดผิว)

 

🔸 MDF/HMR ปิดผิว คืออะไร?
คือการนำแผ่น MDF หรือ HMR ไป ปิดผิวทับด้วยวัสดุตกแต่ง เช่น:
• เมลามีน (Melamine)
• ลามิเนต (Laminate)
• PVC
• ฟอยล์ลายไม้
• สีพ่น (High Gloss, สีด้าน)

เพื่อให้ดูสวยงาม ทนรอยขีดข่วน และกันน้ำ/ความชื้นได้บางส่วน

เหมาะกับเก้าอี้แบบไหน?

แม้ MDF/HMR ไม่เหมาะกับโครงสร้างเก้าอี้ ที่ต้องรับน้ำหนักโดยตรง
แต่สามารถใช้กับ:
• แผ่นพนักพิงหลัง
• ที่นั่งเก้าอี้บางรุ่น (เช่นมีโครงเหล็กรองรับอยู่แล้ว)
• ชิ้นส่วนตกแต่งหรือบิ้วท์อิน ที่ไม่รับแรงมาก

เหมาะกับร้านแบบไหน?

ร้านคาเฟ่หรือร้านอาหารที่มีงบประมาณจำกัด
• ต้องการเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์สวย ทันสมัย
• ใช้งานในพื้นที่ ในร่ม
• รับได้กับเฟอร์นิเจอร์ที่มี อายุการใช้งานกลาง ๆ

สรุปง่าย ๆ แบบไม่งง

ประเภทไม้	ความแข็งแรง	ทนทาน	ราคา	น้ำหนัก	เหมาะกับร้านแบบไหน
ไม้แท้	สูงมาก	สูง	สูง	หนัก	ร้านหรู พรีเมียม อบอุ่น
ไม้ยางพารา	ปานกลาง	ปานกลาง	ปานกลาง	ปานกลาง	ร้านทั่วไป เน้นความคุ้มค่า
ไม้ดัด	เบาแต่มั่นคง	ปานกลาง	ปานกลาง	เบา	คาเฟ่วินเทจ มินิมอล
MDF/HMR	เหมาะงานเบา	ในร่ม	ประหยัด	เบา	ร้านงบน้อย เน้นดีไซน์ ใช้ในร่ม

อยากได้เก้าอี้ไม้ดี ๆ สำหรับร้านคุณ?

อย่าลืมว่า “ไม้” เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ลูกค้านั่งสบายและร้านดูดี
เลือกถูก ใช้งานได้นานกว่า ลงทุนคุ้มกว่าแน่นอน!

💬 ถ้าต้องการคำแนะนำเฉพาะร้าน หรืออยากได้ตัวอย่างเก้าอี้ไม้หลากหลายแบบ โทรหรือแชทปรึกษาเราได้ฟรี!
แอดไลน์ 
👉 LINE ID: @RUDEEFURNITURE
📞 หรือโทร 092-278-7840

หรือดูสินค้าตัวอย่างเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ Rudee Furniture